บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีวิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) จำกัด นำชุมชนในเครือข่ายประชารัฐรักสามัคคีจังหวัดต่างๆ เข้าร่วมออกบูธที่ งาน“สมโภชพระอาราม ๑๙๒ ปี วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร” ระหว่างวันที่ ๑๑ - ๑๓ มกราคม ๒๕๖๓ ที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ ๖ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมสักการะ และเสริมความเป็นสิริมงคล ต้อนรับปีใหม่ ๒๕๖๓ ที่จัดขึ้นจากความร่วมมือหลายภาคส่วน งานนี้นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ จะได้ร่วมไหว้พระขอพร ย้อนวันวาน สารพันอาหาร ย่านกะดีจีน-คลองสาน พร้อม ช้อป ชิม อาหารชุมชน ทั้งจากชุมชนกะดีจีน-คลองสาน กรุงเทพมหานคร และวิทยาลัยอาชีวะในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจากทั่วประเทศที่จัดเต็มมากกว่า ๑๕๐ ร้านค้า โดยปีนี้ ได้มีบริษัทประชารัฐรักสามัคคีจังหวัดที่เข้าร่วม ๔ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุโขทัย หลังจบงานสามารถสร้างรายได้กลับสู่ชุมชนในเครือข่ายกว่า ๖๐,๐๐๐ บาท

          พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดงานว่า “งานสมโภชพระอาราม วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เกิดขึ้นจากการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของชุมชน แบบ 3 ประสาน หรือที่เรียกว่า บวร ได้แก่ บ้าน ที่มีความหมายรวมถึง ชุมชน มูลนิธิสิริวัฒนภักดี หรือ องค์กรต่างๆ วัด ที่ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่วัดของชาวพุทธเท่านั้น แต่ยังหมายถึงศาสนสถานของศาสนาคริสต์ อิสลาม และรัฐ หมายถึงโรงเรียนและราชการ ทั้งสามส่วนนี้สะท้อนถึงความร่วมมือร่วมใจกันที่จะสร้างสรรค์และพัฒนาชุมชนอย่างไม่หยุดนิ่ง ล่าสุดที่มีการลงนามความร่วมมือ (MOU) ในโครงการ ร่วมใจพัฒนาชุมชนย่านกะดีจีน ระหว่าง วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร มูลนิธิสถาบันพัฒนาวิสาหกิจเพื่อสังคมแห่งประเทศไทย บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีวิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) จำกัด สถาบันนวัตกรรมชุมชนอัจฉริยะ C asean และ มูลนิธิบางกอกอาร์ตเบียนนาเล่ เพื่อการพัฒนาชุมชนในเชิงวิสาหกิจอย่างเป็นรูปธรรม ให้เป็นชุมชนตัวอย่างในด้านการบริหารจัดการชุมชนอัจฉริยะ พัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ผ่านกระบวนการทางศิลปะและวัฒนธรรมและเป็นชุมชนที่มีความยั่งยืน เป็นการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนที่เกิดจากความร่วมมือ บวร อันเป็นโมเดลต้นแบบการพัฒนาชุมชนเมือง ซึ่งวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เปรียบเสมือนศูนย์รวมทางวัฒนธรรมของชาวไทย ย่านกะดีจีน ฝั่งธนบุรี ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นชุมชน ๓ ศาสนา ๔ ความเชื่อ ได้แก่ พุทธเถรวาท พุทธมหายาน คริสต์ และอิสลาม แต่อยู่ร่วมกันได้อย่างดี ตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี จึงถือเป็นย่านประวัติศาสตร์เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร”

          การอาชีวศึกษาจากทั่วประเทศ ได้นำวิทยาลัยอาชีวศึกษามาร่วมออกร้าน ด้วยการนำผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นผลจากการเรียน และการฝึกทักษะมาร่วมจัดเป็นของขวัญ ของฝาก และยังมีกิจกรรมการประกวดประกอบอาหาร ๓ ศาสนา ๔ วัฒนธรรม ย่านกะดีจีน เพื่อชิงถ้วยรางวัลพระราชทานจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาร่วมเป็นส่วนสำคัญของงานสมโภชพระอารามในครั้งนี้ และภายในงานท่านจะได้รับชมการแสดงทางวัฒนธรรมที่หาชมได้ยากอย่างมากมาย ซึ่งงานสมโภชพระอาราม ๑๙๒ ปี วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เกิดขึ้นจากความร่วมมือของหลายภาคส่วนที่สะท้อนถึงความร่วมมือร่วมใจที่จะสร้างสรรค์ และพัฒนาชุมชนให้เกิดความเข้มแข็งอันจะเป็นต้นแบบการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน