วันที่ 12 สิงหาคม 2559 บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) เปิดตัวโครงการผ้าขาวม้าท้องถิ่นหัตถศิลป์ไทย ในงาน "ศิลปาชีพประทีบไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี" ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมเเพ็ค เมืองทองธานี เพื่อเฟ้นหาอัตลักษณ์ผ้าขาวม้าไทยในเเต่ละท้องถิ่นทั่วประเทศไทย รวมทั้งเพิ่มมูลค่าด้วยการแปรรูปเป็นสินค้าต่างๆ เพื่อเสริมสร้างรายได้ให้เเก่ชุมชน ตามเป้าหมายการดำเนินการของคณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเเละประชารัฐ 

สำหรับพิธีเปิด “โครงการผ้าขาวม้าท้องถิ่น หัตถศิลป์ไทย”  ได้รับเกียรติจากพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย  ร่วมเป็นสักขีพยานเปิดโครงการ   โดยมี          คุณฐาปน  สิริวัฒนภักดี  กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในฐานะหัวหน้าทีมภาคเอกชน คณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ  พร้อมด้วย  คุณอภิชาติ   โตดิลกเวชช์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน        คุณต้องใจ  ธนะชานันท์  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี (ประเทศไทย) จำกัด  และคุณณเดชน์  คูกิมิยะ  นักแสดงชื่อดังที่มาร่วมสร้างสีสันในพิธีเปิดตัวโครงการด้วยการสวมชุดผ้าขาวม้าที่มีอัตลักษณ์จากกลุ่มทอผ้าบ้านกุดจิก จังหวัดสกลนคร ,  กลุ่มแม่บ้านตำบลบ้านไร่  จังหวัดอุทัยธานี  ,ผ้าทอบ้านเขาเต่าหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  และวิสาหกิจชุมชนคอตตอนดีไซน์              จังหวัดปทุมธานี  ออกแบบโดย คุณลินดา เจริญลาภ เจ้าของแบรนด์ Lalalove and lalalove London

คุณฐาปน  สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในฐานะหัวหน้าทีมภาคเอกชน คณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ  เปิดเผยว่า  “ผ้าขาวม้าของแต่ละท้องถิ่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีความเป็นมาเบื้องลึกที่หลากหลาย แต่สังคมโดยทั่วไปยังอาจไม่ได้รับรู้ในอนาคต เราอยากเห็นผ้าขาวม้าจากแต่ละชุมชน แต่ละหมู่บ้าน เป็นที่รู้จักแพร่หลาย มีการจดลิขสิทธิ์เพื่อสร้างความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา มีการนำไป    แปรรูปเพิ่มมูลค่าเป็นสินค้าได้หลากหลายประเภท และที่สำคัญที่สุดคือ อยากให้ชุมชนผู้ผลิตผ้าขาวม้าทุกแห่งเกิดความรักสามัคคีและภาคภูมิใจภูมิปัญญาของตนเอง”

           คุณต้องใจ  ธนะชานันท์  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า     “โครงการผ้าขาวม้าท้องถิ่น หัตถศิลป์ไทย เป็นโครงการที่จะดำเนินการเป็นเวลา 1 ปี จากเดือนสิงหาคม 2560-2561  โดยจะมีการเชิญคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมพัฒนาผ้าขาวม้าที่ส่งเข้าร่วมโครงการให้มีอัตลักษณ์ที่โดดเด่นชัดเจนยิ่งขึ้น มีการเชิญดีไซเนอร์ชั้นนำเข้าร่วมสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากผ้าขาวม้า และมีการส่งเสริมการจดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายทางการค้า  นอกจากนั้นจะมีการจัด workshop แลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับชุมชน รวมถึงกิจกรรมสร้างความรับรู้ให้กับสังคมวงกว้างเป็นระยะๆ”