สำหรับบรรยากาศงานเปิดในวันเเรกของงานอุุ่นไอรัก วันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เต็มไปด้วยบรรยากาศย้อนยุคที่มีประชาชนมากมายที่ให้ความสนใจร่วมกันเเต่งกายในชุดไทยนิยม นับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ได้ให้ประชาชนร่วมกิจกรรมดีๆ ที่หาได้ยากในยุคปัจจุบัน 

ความเป็นมาของงาน

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยราชการในพระองค์จัดงานฤดูหนาว ขึ้นภายใต้ชื่อ "อุ่นไอรัก คลายความหนาว" ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า ระหว่างวันที่ 8 ก.พ.-11 มี.ค.61 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ แสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี โดยมีลักษณะงานแบบย้อนยุค ภายในงานนี้เน้นการจัดงานที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไทยในหลากหลายรูปเเบบตั้งเเต่ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เเละพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  และเป็นการพระราชทานความสุขให้แก่ประชาชนในช่วงปลายฤดูหนาว รายได้จากการจัดงานโดยไม่หักค่าใช้จ่าย จะทรงนำไปใช้ในการพระราชกุศลบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่ประชาชนผู้ได้รับความเดือนร้อนจากภัยและเหตุการณ์ต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย 

การจัดงานแบ่งเป็น 3 โซน คือ 

1) โซนพระลานพระราชวังดุสิต จัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมสยามประชารำฦก นำเสนอพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ ร.5 และ ร.9 

ทั้งนี้ โซนที่ 1 จะถูกออกแบบตกแต่งอย่างสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมสมัย ร.5 และ ร.9 มีการจัดสวน พันธุ์ไม้ และน้ำพุ งานประดิษฐ์ตามศิลปะไทยแบบชาววัง 

2) โซนสนามเสือป่า จัดร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์และร้านค้ารับเชิญ เช่น ร้านศิลปาชีพ 904 ร้านภูฟ้า ร้านจิตรลดา ร้านของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ร้านมูลนิธิโครงการหลวง ร้านแม่บ้านเหล่าทัพ ฯลฯ 

โซนที่ 2 จะมีการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านและฉายหนังกลางแปลง โดยเงินรายได้ส่วนหนึ่งจากการขายสินค้าจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก 

3) โซนร้านอาหารและร้านค้าในแนวคิดใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร สืบสานชุมชน วิถีไทย โดยจะจัดซุ้มร้านอาหารไทยโบราณที่มีรสชาติอร่อย จำนวนประมาณ 30 ร้าน 

โซนที่ 3 จะมีการสาธิตเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น และมีร้านสตูดิโอให้ถ่ายภาพย้อนยุคด้วย 

ส่วนสิ่งที่น่าสนใจภายในงาน จะมีการนำเสนอความมาประวัติศาสตร์ของประเทศไทยในอดีตจนถึงทุกวันนี้ ทั้งเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ที่ผ่านมาด้วยพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์ไทยในอดีต ทั้งกุศโลบายการพัฒนาประเทศ บทบาทของหน่วยงานต่างๆ ที่ล้นเกล้าล้นกระหม่อมรัชกาลที่ 5 ทรงก่อตั้งขึ้น เช่น การประปา การรถไฟ ไปรษณีย์ไทย ธนาคารสยามกัมมาจล ที่เป็นรากฐานของบ้านเมืองมาจนทุกวันนี้ รวมทั้งยังมีพระราชกรณียกิจของรัชกาลที่ 9 ที่สะท้อนให้เห็นถึงสิ่งต่างๆ ที่พระองค์ทรงพัฒนาประโยชน์เเก่ปวงชนชาวไทยจนทำให้ประเทศไทยของเราพัฒนายั่งยืนมาถึงทุกวันนี้
 
นอกจากนี้ยังมีการเเสดงเเละการละเล่นพื้นบ้านไทยที่หาชมได้ยาก รวมถึงหนังกลางเเปลงเเละร้านสตูดิโอให้ถ่ายภาพย้อนยุคอีกด้วย เเถมยังร่วมลุ้นรางวัลเเละอิ่มอร่อยกับอาหารไทยนานาชนิด ร้านค้าอาหารไทยโบราณที่หาชิมได้ยาก

ในโอกาสนี้ทางบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับโอกาสเข้าร่วมในงานนี้ ซึ่งบูทจะจัดตั้งอยู่โซนของ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) ที่จะจัดจำหน่ายสินค้าต่างๆ ของทั้งของใช้หลากหลาย เเละพื้นที่จะอยู่ในโซนของร้านอาหารและร้านค้า ซึ่งเป็นร้านค้าในเครือข่ายของประชารัฐฯ จะมีการหมุนเวียนร้านอาหารทุก 5-7 วันเพื่อความหลากหลายเเละเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ให้กับชุมชน ร้านค้าในรอบเเรก มีดังนี้

1. ขนมทองม้วนน้ำตาลโตนด เพชรบุรี
2. ข้าวเหนียวมูนสมุนไพร นนทบุรี
3. สลิ่มมะพร้าว สูตรชาววัง สุราษฎร์ธานี
4. ขนมไทยโบราณ อยุธยา
5. กระยาสารท พิจิตร 

ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้มีการจัดการเเถลงข่าวกับสื่อมวลชนสำหรับงานอุ่นไอรักในครั้งนี้ มีการจำลองงานเสมือนจริง ทั้งร้านค้า ผู้คนร่วมกันเเต่งกายสวมผ้าไทยทำให้บรรยากาศสดใส ชวนชม ทั้งนี้ทางบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) ได้นำชุมชนในเครือข่ายประชารัฐฯ นำสินค้ามาให้ชิมในงานนี้ฟรี สร้างความสนใจเเก่บรรดาข้าราชการ เเละผู้เกี่ยวข้องในงานการเเถลงข่างในวันนั้น

ทั้งนี้ยังได้รับเกียรติจาก พลเรือเอก ปวิตร รุจิเทศ รองสมุหราชองครักษ์ กรมราชองครักษ์ ได้เข้ามาเยี่ยมชมในบูทของ ครัวชุมชนช้าง จึงขอเชิญชวนประชาชนทั่วไปมาร่วมงานที่จะจัดขึ้นในวันที่ 8 ก.พ. - 11 มี.ค. กันนะคะ

++ สำหรับการแต่งกายของพ่อค้าแม่ค้าจะสวมชุดไทยย้อนยุค โดยเชิญชวนประชาชนที่ไปร่วมงานสามารถแต่งกายย้อนยุคสมัย ร.5 หรือสวมใส่ผ้าไทย หรือชุดสุภาพตามสมัยนิยม เข้าชม ฟรี! ++